ข้อมูลองค์ความรู้-
• รายละเอียดขององค์ความรู้
ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจ สร้างความพร้อมอย่างไรให้กับธุรกิจนวัตกรรมไทย
พร้อมเดินหน้าผลักดันผู้ประกอบการไทยให้คนทั้งประเทศและทั่วโลกหันมาจับตา!
ท่ามกลางสนามธุรกิจที่มีแต่การแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ มีสตาร์ทอัพหรือผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน หรือสตาร์ทอัพที่มีไอเดียเจ๋งๆ แต่ขาดเงินทุนหรือการต่อยอดนวัตกรรมก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก NIA ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจ (Innovation for Economy) จึงเกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้และสร้างกลไกในหลากหลายมิติเพื่อให้ผู้ประกอบการมีทั้งต้นทุนองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมและธุรกิจ เงินทุน พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายธุรกิจและการลงทุน นำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศให้เติบโตและมีความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติ ผ่าน 3 ขั้นตอนดังนี้
เตรียมความพร้อมก่อนคว้าทุน
ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจประเภทไหนหรือกำลังพัฒนานวัตกรรมอะไร “ความรู้” เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ NIA ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจจึงมีการปูพื้นฐานความรู้ด้านนวัตกรรมและธุรกิจ ผ่าน 3 ช่องทางด้วยกัน ได้แก่
1.คอร์สเรียน Innovation/Startup ในระดับ 101 และ 102 ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ สำหรับ Startup หรือ Smart SMEs ที่สมัครเข้าร่วมโครงการกับฝ่ายนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจ
2.NIA Massive Open Online Courses (NIA MOOCs)
แพลตฟอร์มที่เปิดให้ทุกคนสามารถร่วมลงทะเบียนเรียนด้านนวัตกรรมและธุรกิจแบบไม่มีค่าใช้จ่าย โดยคอร์สเรียนของแพลตฟอร์มนี้มีอยู่ 3 ระดับด้วยกัน แบ่งออกเป็น
- Explore คอร์สเรียนระดับพื้นฐาน เช่น Innovation 101, Startup 101, Intro to Startup, IP for Business Innovation ฯลฯ
- Expertise คอร์สเรียนความรู้เฉพาะทาง เช่น Art Technology, Space Technology for Business Innovation ฯลฯ
- Expand คอร์สเรียนเชิงลึกเพื่อต่อยอดธุรกิจ เช่น Data Analytic for Business Innovation, IP Practical Guild for Entrepreneur ฯลฯ
สามารถลงทะเบียนเรียนฟรีผ่านเว็บไซต์ https://moocs.nia.or.th/
3.ศูนย์ให้คำปรึกษาในระดับภูมิภาคกับเครือข่ายมหาวิทยาลัย
ภาคเหนือ : มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ภาคกลางและภาคตะวันออก : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ภาคอีสาน : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
ภาคใต้ : มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ออกสตาร์ทไอเดียนวัตกรรม
“เงินทุน” เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ NIA ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจให้การสนับสนุน เพื่อนำไปพัฒนานวัตกรรมและขยายธุรกิจให้เกิดผล โดยผู้ประกอบการสามารถเข้ามาร่วมขอทุนได้ผ่าน 2 กลไก ดังนี้
• โครงการ “นวัตกรรมแบบเปิด” (Open Innovation)
มุ่งเน้นการส่งเสริมสตาร์ทอัพและ Smart SMEs ในกลุ่มเศรษฐกิจที่เตรียมพร้อมสู่อุตสาหกรรมอนาคต โดยมีการจัดโครงการตลอดทั้งปี และมีการตระเวนจัดโครงการในระดับภูมิภาค เปิดรับทุกนวัตกรรมที่สอดรับกับ 3 กลุ่มเศรษฐกิจด้านล่าง ซึ่งครอบคลุมแทบทุกธุรกิจที่กำลังเติบโตในปัจจุบันและในอนาคต
1.สาขาเศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy)
- ชีวเภสัชภัณฑ์
- อาหารแห่งอนาคต
- ธุรกิจนวัตกรรมการเกษตร
- เวชสำอาง
- ผลิตภัณฑ์ชีวภาพ
- นวัตกรรมสมุนไพรคุณภาพสูง
2.สาขาเศรษฐกิจการผลิตและการหมุนเวียน (Manufacturing and circular Economy)
- ยานยนต์
- หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม
- หัตถอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์
- การจัดการของเสีย
- พลังงานสีเขียว
- อิเล็กทรอนิกส์
3.สาขาเศรษฐกิจบริการและการแบ่งปัน (Service and sharing economy)
- ธุรกิจนวัตกรรมบริการ
- ธุรกิจนวัตกรรมเชิงสังคม
- อุตสาหกรรมดิจิทัล
- การขนส่งและโลจิสติกส์
จำนวนเงินทุนสนับสนุน : สูงสุดไม่เกิน 1,500,000 บาท / โครงการ
โดยวงเงินสนับสนุนเป็นสัดส่วน ไม่เกินร้อยละ 75 ของมูลค่าโครงการ
• โครงการ “นวัตกรรมแบบมุ่งเป้า” (Thematic Innovation)
มุ่งเน้นการสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบโจทย์กับอุตสาหกรรม ตามเป้าหมาย (Theme) ในแต่ละปี ซึ่งผู้สมัครต้องมีประสบการณ์การทำนวัตกรรมในธุรกิจนวัตกรรมมุ่งเป้า ไม่ต่ำกว่า 3 ปี โดยสาขาที่เปิดรับสมัครประจำปี 2565 ได้แก่
1.ธุรกิจดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีด้าน AI, Robotic, Immersive & IoT (ARI TECH)
- ธุรกิจดิจิทัลด้านการดูแลสุขภาพ (Digital in Healthcare business)
- ธุรกิจดิจิทัลด้านการขนส่ง (Digital in Logistic business)
- ธุรกิจดิจิทัลด้านการบริการ (Digital in Service business)
- ธุรกิจดิจิทัลด้านการผลิต (Digital in Manufacturing business)
2.ธุรกิจนวัตกรรมด้านอาหารแห่งอนาคต (Future Food)
- ธุรกิจนวัตกรรมด้านอาหารเฉพาะบุคคล (Personalized Food)
- ธุรกิจนวัตกรรมด้านโปรตีนทางเลือก (Alternative Protein)
- ธุรกิจนวัตกรรมด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism)
- ธุรกิจนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับสร้างสมดุลภูมิคุ้มกัน (Immunity Balance)
จำนวนเงินทุนสนับสนุน : ทุนให้เปล่า สูงสุดไม่เกิน 5,000,000 บาท / โครงการ
โดยวงเงินสนับสนุนเป็นสัดส่วน ไม่เกินร้อยละ 75 ของมูลค่าโครงการ
อ่านรายละเอียดข้อมูลโครงการ Thematic Innovation ประจำปี 2565 เพิ่มเติมได้ที่นี่ > https://bit.ly/32hcNIL
เงื่อนไขผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1.วิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อชุมชน (Social Enterprise) หรือผู้ประกอบการที่จดทะเบียนพาณิชย์ โดยมีผู้ถือหุ้นเป็นบุคคลสัญชาติไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 ของผู้ถือหุ้นทั้งหมด
2.ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการต้องมีคุณสมบัติตามประกาศกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ.2562 ได้แก่
2.1.ภาคการผลิต แบ่งออกเป็น
- วิสาหกิจขนาดย่อย (Micro) รายได้ไม่เกิน 1.8 ลบ. มีการจ้างงานไม่เกิน 5 คน
- วิสาหกิจขนาดย่อม รายได้ไม่เกิน 100 ลบ. มีการจ้างงานไม่เกิน 50 คน
- วิสาหกิจขนาดกลาง (Medium) รายได้ไม่เกิน 500 ลบ. มีการจ้างงานไม่เกิน 200 คน
2.2.ภาคการค้าและบริการ แบ่งออกเป็น
- วิสาหกิจขนาดย่อย (Micro) รายได้ไม่เกิน 1.8 ลบ. มีการจ้างงานไม่เกิน 5 คน
- วิสาหกิจขนาดย่อม รายได้ไม่เกิน 50 ลบ. มีการจ้างงานไม่เกิน 30 คน
- วิสาหกิจขนาดกลาง (Medium) รายได้ไม่เกิน 300 ลบ. มีการจ้างงานไม่เกิน 100 คน
เร่งสปีด…การเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ในการทำสตาร์ทอัพ มีเพียงความรู้และเงินทุนอาจยังไม่เพียงพอ NIA ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจ จึงพร้อมสร้างเครือข่ายและต่อยอดธุรกิจให้เติบโตทั้งในภาคการลงทุนและเชื่อมโยงกับธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ผ่านหลากหลายโครงการด้วยกัน อาทิ
• นวัตกรรมดี…ไม่มีดอกเบี้ย ร่วมกับเครือข่ายธนาคาร
โครงการขยายผลทางธุรกิจในด้านเงินลงทุนกับธนาคารต่างๆ โดย NIA เป็นผู้สนับสนุนดอกเบี้ยเงินกู้แทนผู้ประกอบการนวัตกรรม
*เงื่อนไขเป็นไปตามข้อตกลงที่ สนช. และธนาคารกำหนด
• SPACE-F Global FoodTech Incubator and Accelerator Program
โครงการบ่มเพาะและเร่งการเติบโตทางธุรกิจด้านเทคโนโลยีอาหาร ผ่านการพัฒนาศักยภาพและการเชื่อมโยงเครือข่ายในระบบนิเวศ เพื่อให้วิสาหกิจเริ่มต้นด้านเทคโนโลยีอาหาร (FoodTech startup) สามารถเติบโตได้อย่างเป็นรูปธรรม
ดูรายละเอียดโครงการเพิ่มเติม คลิก! > https://www.space-f.co/
• Growth Program for Startups
โครงการพัฒนาศักยภาพสตาร์ทอัพเพื่อส่งเสริมการต่อยอดธุรกิจ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงนักลงทุน และส่งเสริมระบบนิเวศสตาร์ทอัพในประเทศและภูมิภาค
• Bilateral Program ร่วมกับเครือข่ายต่างประเทศ
โครงการพัฒนาความร่วมมือด้านนวัตกรรมกับหน่วยงานต่างประเทศเพื่อส่งเสริมการเติบโตของผู้ประกอบการธุรกิจฐานนวัตกรรม หนึ่งในตัวอย่างโครงการที่น่าสนใจ คือ Thailand-Israel R&D Cooperation Program ภายใต้ความร่วมมือกับ Israel Innovation Authority (IIA)
พร้อมเดินหน้าผลักดันผู้ประกอบการไทยให้คนทั้งประเทศและทั่วโลกหันมาจับตา!
ท่ามกลางสนามธุรกิจที่มีแต่การแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ มีสตาร์ทอัพหรือผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยที่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน หรือสตาร์ทอัพที่มีไอเดียเจ๋งๆ แต่ขาดเงินทุนหรือการต่อยอดนวัตกรรมก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก NIA ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจ (Innovation for Economy) จึงเกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหานี้และสร้างกลไกในหลากหลายมิติเพื่อให้ผู้ประกอบการมีทั้งต้นทุนองค์ความรู้ด้านนวัตกรรมและธุรกิจ เงินทุน พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายธุรกิจและการลงทุน นำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศให้เติบโตและมีความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติ ผ่าน 3 ขั้นตอนดังนี้
เตรียมความพร้อมก่อนคว้าทุน
ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจประเภทไหนหรือกำลังพัฒนานวัตกรรมอะไร “ความรู้” เป็นองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ NIA ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจจึงมีการปูพื้นฐานความรู้ด้านนวัตกรรมและธุรกิจ ผ่าน 3 ช่องทางด้วยกัน ได้แก่
1.คอร์สเรียน Innovation/Startup ในระดับ 101 และ 102 ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ สำหรับ Startup หรือ Smart SMEs ที่สมัครเข้าร่วมโครงการกับฝ่ายนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจ
2.NIA Massive Open Online Courses (NIA MOOCs)
แพลตฟอร์มที่เปิดให้ทุกคนสามารถร่วมลงทะเบียนเรียนด้านนวัตกรรมและธุรกิจแบบไม่มีค่าใช้จ่าย โดยคอร์สเรียนของแพลตฟอร์มนี้มีอยู่ 3 ระดับด้วยกัน แบ่งออกเป็น
- Explore คอร์สเรียนระดับพื้นฐาน เช่น Innovation 101, Startup 101, Intro to Startup, IP for Business Innovation ฯลฯ
- Expertise คอร์สเรียนความรู้เฉพาะทาง เช่น Art Technology, Space Technology for Business Innovation ฯลฯ
- Expand คอร์สเรียนเชิงลึกเพื่อต่อยอดธุรกิจ เช่น Data Analytic for Business Innovation, IP Practical Guild for Entrepreneur ฯลฯ
สามารถลงทะเบียนเรียนฟรีผ่านเว็บไซต์ https://moocs.nia.or.th/
3.ศูนย์ให้คำปรึกษาในระดับภูมิภาคกับเครือข่ายมหาวิทยาลัย
ภาคเหนือ : มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ภาคกลางและภาคตะวันออก : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
ภาคอีสาน : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
ภาคใต้ : มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ออกสตาร์ทไอเดียนวัตกรรม
“เงินทุน” เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ NIA ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจให้การสนับสนุน เพื่อนำไปพัฒนานวัตกรรมและขยายธุรกิจให้เกิดผล โดยผู้ประกอบการสามารถเข้ามาร่วมขอทุนได้ผ่าน 2 กลไก ดังนี้
• โครงการ “นวัตกรรมแบบเปิด” (Open Innovation)
มุ่งเน้นการส่งเสริมสตาร์ทอัพและ Smart SMEs ในกลุ่มเศรษฐกิจที่เตรียมพร้อมสู่อุตสาหกรรมอนาคต โดยมีการจัดโครงการตลอดทั้งปี และมีการตระเวนจัดโครงการในระดับภูมิภาค เปิดรับทุกนวัตกรรมที่สอดรับกับ 3 กลุ่มเศรษฐกิจด้านล่าง ซึ่งครอบคลุมแทบทุกธุรกิจที่กำลังเติบโตในปัจจุบันและในอนาคต
1.สาขาเศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy)
- ชีวเภสัชภัณฑ์
- อาหารแห่งอนาคต
- ธุรกิจนวัตกรรมการเกษตร
- เวชสำอาง
- ผลิตภัณฑ์ชีวภาพ
- นวัตกรรมสมุนไพรคุณภาพสูง
2.สาขาเศรษฐกิจการผลิตและการหมุนเวียน (Manufacturing and circular Economy)
- ยานยนต์
- หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม
- หัตถอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์
- การจัดการของเสีย
- พลังงานสีเขียว
- อิเล็กทรอนิกส์
3.สาขาเศรษฐกิจบริการและการแบ่งปัน (Service and sharing economy)
- ธุรกิจนวัตกรรมบริการ
- ธุรกิจนวัตกรรมเชิงสังคม
- อุตสาหกรรมดิจิทัล
- การขนส่งและโลจิสติกส์
จำนวนเงินทุนสนับสนุน : สูงสุดไม่เกิน 1,500,000 บาท / โครงการ
โดยวงเงินสนับสนุนเป็นสัดส่วน ไม่เกินร้อยละ 75 ของมูลค่าโครงการ
• โครงการ “นวัตกรรมแบบมุ่งเป้า” (Thematic Innovation)
มุ่งเน้นการสนับสนุนผู้ประกอบการที่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบโจทย์กับอุตสาหกรรม ตามเป้าหมาย (Theme) ในแต่ละปี ซึ่งผู้สมัครต้องมีประสบการณ์การทำนวัตกรรมในธุรกิจนวัตกรรมมุ่งเป้า ไม่ต่ำกว่า 3 ปี โดยสาขาที่เปิดรับสมัครประจำปี 2565 ได้แก่
1.ธุรกิจดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีด้าน AI, Robotic, Immersive & IoT (ARI TECH)
- ธุรกิจดิจิทัลด้านการดูแลสุขภาพ (Digital in Healthcare business)
- ธุรกิจดิจิทัลด้านการขนส่ง (Digital in Logistic business)
- ธุรกิจดิจิทัลด้านการบริการ (Digital in Service business)
- ธุรกิจดิจิทัลด้านการผลิต (Digital in Manufacturing business)
2.ธุรกิจนวัตกรรมด้านอาหารแห่งอนาคต (Future Food)
- ธุรกิจนวัตกรรมด้านอาหารเฉพาะบุคคล (Personalized Food)
- ธุรกิจนวัตกรรมด้านโปรตีนทางเลือก (Alternative Protein)
- ธุรกิจนวัตกรรมด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหาร (Gastronomy Tourism)
- ธุรกิจนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับสร้างสมดุลภูมิคุ้มกัน (Immunity Balance)
จำนวนเงินทุนสนับสนุน : ทุนให้เปล่า สูงสุดไม่เกิน 5,000,000 บาท / โครงการ
โดยวงเงินสนับสนุนเป็นสัดส่วน ไม่เกินร้อยละ 75 ของมูลค่าโครงการ
อ่านรายละเอียดข้อมูลโครงการ Thematic Innovation ประจำปี 2565 เพิ่มเติมได้ที่นี่ > https://bit.ly/32hcNIL
เงื่อนไขผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
1.วิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อชุมชน (Social Enterprise) หรือผู้ประกอบการที่จดทะเบียนพาณิชย์ โดยมีผู้ถือหุ้นเป็นบุคคลสัญชาติไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 ของผู้ถือหุ้นทั้งหมด
2.ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการต้องมีคุณสมบัติตามประกาศกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ.2562 ได้แก่
2.1.ภาคการผลิต แบ่งออกเป็น
- วิสาหกิจขนาดย่อย (Micro) รายได้ไม่เกิน 1.8 ลบ. มีการจ้างงานไม่เกิน 5 คน
- วิสาหกิจขนาดย่อม รายได้ไม่เกิน 100 ลบ. มีการจ้างงานไม่เกิน 50 คน
- วิสาหกิจขนาดกลาง (Medium) รายได้ไม่เกิน 500 ลบ. มีการจ้างงานไม่เกิน 200 คน
2.2.ภาคการค้าและบริการ แบ่งออกเป็น
- วิสาหกิจขนาดย่อย (Micro) รายได้ไม่เกิน 1.8 ลบ. มีการจ้างงานไม่เกิน 5 คน
- วิสาหกิจขนาดย่อม รายได้ไม่เกิน 50 ลบ. มีการจ้างงานไม่เกิน 30 คน
- วิสาหกิจขนาดกลาง (Medium) รายได้ไม่เกิน 300 ลบ. มีการจ้างงานไม่เกิน 100 คน
เร่งสปีด…การเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ในการทำสตาร์ทอัพ มีเพียงความรู้และเงินทุนอาจยังไม่เพียงพอ NIA ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจ จึงพร้อมสร้างเครือข่ายและต่อยอดธุรกิจให้เติบโตทั้งในภาคการลงทุนและเชื่อมโยงกับธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ผ่านหลากหลายโครงการด้วยกัน อาทิ
• นวัตกรรมดี…ไม่มีดอกเบี้ย ร่วมกับเครือข่ายธนาคาร
โครงการขยายผลทางธุรกิจในด้านเงินลงทุนกับธนาคารต่างๆ โดย NIA เป็นผู้สนับสนุนดอกเบี้ยเงินกู้แทนผู้ประกอบการนวัตกรรม
*เงื่อนไขเป็นไปตามข้อตกลงที่ สนช. และธนาคารกำหนด
• SPACE-F Global FoodTech Incubator and Accelerator Program
โครงการบ่มเพาะและเร่งการเติบโตทางธุรกิจด้านเทคโนโลยีอาหาร ผ่านการพัฒนาศักยภาพและการเชื่อมโยงเครือข่ายในระบบนิเวศ เพื่อให้วิสาหกิจเริ่มต้นด้านเทคโนโลยีอาหาร (FoodTech startup) สามารถเติบโตได้อย่างเป็นรูปธรรม
ดูรายละเอียดโครงการเพิ่มเติม คลิก! > https://www.space-f.co/
• Growth Program for Startups
โครงการพัฒนาศักยภาพสตาร์ทอัพเพื่อส่งเสริมการต่อยอดธุรกิจ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงนักลงทุน และส่งเสริมระบบนิเวศสตาร์ทอัพในประเทศและภูมิภาค
• Bilateral Program ร่วมกับเครือข่ายต่างประเทศ
โครงการพัฒนาความร่วมมือด้านนวัตกรรมกับหน่วยงานต่างประเทศเพื่อส่งเสริมการเติบโตของผู้ประกอบการธุรกิจฐานนวัตกรรม หนึ่งในตัวอย่างโครงการที่น่าสนใจ คือ Thailand-Israel R&D Cooperation Program ภายใต้ความร่วมมือกับ Israel Innovation Authority (IIA)
• วันที่เผยแพร่ผลงาน :
05 มกราคม 2565
• Keyword :
นวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจ, นวัตกรรม, ธุรกิจนวัตกรรม, ผู้ประกอบการ, สตาร์ทอัพ
ผู้ประกอบการ/โครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง+
รายละเอียดเจ้าของข้อมูล+
ฝ่ายนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจ สร้างความพร้อมอย่างไรให้กับธุรกิจนวัตกรรมไทย

• ชื่อเจ้าของข้อมูล :
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
• หมวดหมู่นวัตกรรม :
อื่น
• Keyword :
วันที่เผยแพร่: 05 มกราคม 2565
|
ผู้เยี่ยมชม: 56
องค์ความรู้ด้านนวัตกรรมที่น่าสนใจ

แพทย์หญิง มุฑิตา อุเบกข
าแพทย์อายุรก
csdfdsfsdfsdfdsfsdfsdfsdfsdf

แพทย์หญิง มุฑิตา อุเบกข
าแพทย์อายุรก
csdfdsfsdfsdfdsfsdfsdfsdfsdf

แพทย์หญิง มุฑิตา อุเบกข
าแพทย์อายุรก
csdfdsfsdfsdfdsfsdfsdfsdfsdf

แพทย์หญิง มุฑิตา อุเบกข
าแพทย์อายุรก
csdfdsfsdfsdfdsfsdfsdfsdfsdf

แพทย์หญิง มุฑิตา อุเบกข
าแพทย์อายุรก
csdfdsfsdfsdfdsfsdfsdfsdfsdf

แพทย์หญิง มุฑิตา อุเบกข
าแพทย์อายุรก
csdfdsfsdfsdfdsfsdfsdfsdfsdf

แพทย์หญิง มุฑิตา อุเบกข
าแพทย์อายุรก
csdfdsfsdfsdfdsfsdfsdfsdfsdf

แพทย์หญิง มุฑิตา อุเบกข
าแพทย์อายุรก
csdfdsfsdfsdfdsfsdfsdfsdfsdf

แพทย์หญิง มุฑิตา อุเบกข
าแพทย์อายุรก
csdfdsfsdfsdfdsfsdfsdfsdfsdf